• Facebook
• Twitter
• Line

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (11 มิ.ย.) เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่หลายคนจับตามองนั้นมีรายละเอียดออกมาน้อยมาก แม้ว่าทั้งสองฝ่ายสัญญาว่าจะมีการทำข้อตกลงระดับสูงเกิดขึ้นก็ตาม

• ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 551.64 จุด ลดลง 1.48 จุด หรือ -0.27%
• ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,775.90 จุด ลดลง 28.43 จุด หรือ -0.36%,
• ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,948.90 จุด ลดลง 38.66 จุด หรือ -0.16% และ
• ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,864.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.27 จุด หรือ +0.13%

ดัชนี STOXX 600 ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากเปิดบวกในช่วงเช้าโดยได้แรงหนุนจากรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร และเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนเห็นพ้องในกรอบการฟื้นฟูข้อตกลงสงบศึกทางการค้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงสหรัฐฯ-จีนเสร็จสิ้นแล้ว โดยจีนจะจัดหาสารแม่เหล็กและแร่หายากให้กับสหรัฐฯ

ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ข้อตกลงกับจีนเปิดทางให้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในอัตรา 55% ซึ่งรวมถึงภาษีตอบโต้ 10%, ภาษี 20% สำหรับการลักลอบส่งเฟนทานิล และภาษี 25% จากมาตรการภาษีที่มีอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่จีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่ 10%

นักลงทุนในยุโรปยังคงระมัดระวัง แม้ว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่นักวิเคราะห์ระบุว่านักลงทุนคาดหวังจะเห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้

สำหรับแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดยุโรปในขณะนี้คือการเพิ่มงบประมาณกลาโหม และการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ECB ส่งสัญญาณว่า วงจรการผ่อนคลายนโยบายกำลังจะสิ้นสุดลง โดยบรรดาเทรดเดอร์คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในช่วงปลายปีนี้

กลุ่มค้าปลีกนำตลาดปรับตัวลง โดยลดลง 1.7% เนื่องจากหุ้นอินดิเท็กซ์ (Inditex) เจ้าของแบรนด์ซารา (Zara) ร่วงลง 4.4% หลังจากยอดขายไตรมาสแรกไม่เป็นไปตามคาด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 68)

• Facebook
• Twitter
• Line